ZyGen RPA
จากทางรอดสู่ความยั่งยืน
Covid-19 นั่นแสดงให้เราเห็นถึงความท้าทายมากมาย ที่เราไม่เคยจินตนาการมาก่อน หลายองค์กรที่ถูกถาโถมด้วยความท้าทาย และภาระงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหลายองค์กรสามารถตอบสนองเหตุการณ์นี้ด้วยการนำ Software Robot เข้ามาช่วยในการแก้ปัญหาในการทำงานในระยะแรก ในขณะเดียวกัน หลายองค์กรมีการริเริ่มการวางแผนระยะยาวในการนำเทคโนโลยีอย่าง Intelligent Automation มาช่วยปรับปรุงการทำงาน ซึ่งการจะเริ่มต้นได้อย่างมั่นคงนั้นเทคโนโลยีอย่าง Robotic Process Automation (RPA) ถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะปูทางให้องค์กรประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงสู่ Intelligent Automation
RPA คืออะไร
เช่นเดียวกับเสาที่ค้ำยันสิ่งปลูกสร้าง RPA เปรียบเสมือนแกนสำคัญที่รับหน้าที่ควบคุมการทำงานกับกระบวนการอัตโนมัติ ของ Digital Worker ให้สมบูรณ์แบบ เพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกกันระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ หรือที่เราเรียกว่า Hybrid Workforce รวมถึงการนำความสามารถของ Artificial Intelligent และ Machine Learning เข้ามาร่วม เพื่อรองรับการทำงานกับกระบวนการที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
และเช่นเดียวกับมนุษย์ Digital Worker สามารถพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพิ่มความสามารถ และความฉลาด เพื่อรองรับการทำงานร่วมกับมนุษย์ และส่งมอบการทำงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งกว่า
Blue Prism Portfolio
INTELLIGENT
AUTOMATION
PLATFORM
ก้าวสู่การดำเนินธุรกิจที่ฉลาดกว่าด้วย Intelligent Automation Platform (IAP) ที่จะมอบทุกสิ่งที่คุณต้องการ เพื่อการันตีอนาคตองค์กรของคุณ
ลองจินตนาการถึงการที่ทีมงานของคุณ จะสามารถใช้เวลาไปกับงานที่มีคุณค่ามากกว่า ในขณะที่งานบางส่วนสามารถจัดการได้โดยหุ่นยนต์ที่มีความแม่นยำ รวดเร็ว และลดข้อผิดพลาด เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของธุรกิจ Blue Prism Intellgent Automation Platform จะเข้ามาช่วย Digital Transformation ที่องค์กรไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป
- Digital Workforce
- Process Assessment Tool
- Capture
- Hup
- Interact
- Decipher IDP
- Accelerators For Use with SAP ERP
- Process Intelligence
วางแผนสู่ความสำเร็จ
PLANNING FOR SUCCESS
ก้าวไปด้วยรากฐานที่มั่นคง
องค์กรมีโอกาสจะประสบความสำเร็จได้มากกว่าหากมีการวางวิสัยทัศน์ (Vision) และแผนยุทธศาสตร์ (Strategy) ในการใช้งาน RPA รวมถึงการวาง Best Practice ในด้านต่างๆที่ไว้อย่างชัดเจน
Blue Prism Robotic Operating Model (ROM) จะเข้ามาช่วยองค์กรในการกำหนดยุทธศาสตร์ ตั้งแต่ในช่วง ค้นหากระบวนการ พัฒนากระบวบการ ติดตั้ง ดูแล ไปจนถึงการขยายการใช้งานไปยังส่วนงานอื่นๆ (Scale)
Blue Prism Robotic Operating Model
ประกอบด้วย
VISON
กำหนดเป้าหมาย และความคาดหวังขององค์กรต่อการใช้งาน RPA เพื่อส่งมอบ Benefit ที่สอดคล้องกับเป้าหมายหลักขององค์กร
ORGANIZATION
จัดตั้งทีม RPA ทีจะทำหน้าที่ควบคุม พัฒนา ส่งมอบ และดูแลกระบวนการอัตโนมัติ ที่สอดคล้องกับบริบท และ วัฒนธรรมขององค์กร
GOVERNANCE & PIPELINE
จัดตั้งกระบวนการค้นหากระบวนการ เพื่อเข้ามาดำเนินการพัฒนา คัดเลือก วิเคราะห์ และจัดลำดับความสำคัญ กระบวนการดังกล่าว เพื่อส่งมอบ Benefit ที่สูงสุด และตรงตามเป้าหมายขององค์กร
DELIVERY STRATERY
กำหนดขั้นตอนการพัฒนาและส่งมอบกระบวนการที่มีการควบคุม เพื่อประสิทธิภาพ และคุณภาพของกระบวนการอัตโนมัติ
SERVICE MODEL
กำหนดขั้นตอนการสนับสนุนการทำงานกับ Live Process รวมถึงกำหนดวิธีการจัดการ การตั้งเวลาทำงาน การรายงาน และการส่งต่อข้อผิดพลาดหรือ Exception ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เพื่อทำให้กระบวนการทำงานราบรื่น
PEOPLE
กำหนดวิธีการคัดเลือกบุคลากรให้เหมาะสมกับตำแหน่งและหน้าที่ รวมถึงวางแผนการ Training และ Coaching สมาชิกในทีม Delivery และ Support
TECHNOLOGY
กำหนด Infrastructure ที่สามารถขยายการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังสามารถควบคุมด้านการ Maintenance และ Compliance
เมื่อมนุษย์ทำงานร่วมกับ Digital Worker
Head of Robotic Process Automation
จัดการ และเป็นเจ้าของ Digital Workforce กำหนด Vision และ วิธีการที่จะไปถึง Vision
Robotic Operating Model Architect
วางแผนและกำหนดวิธีการที่เหมาะสมในส่วนต่างเพื่อการส่งมอบกระบวนการอัตโนมัติ รวมถึงการขยายไปยังส่วนงานอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ทางธุรกิจสูงสุด
Process Analyst
เก็บรายละเอียดความต้องการของธุรกิจ ออกแบบกระบวนการอัตโนมัติ รวมถึงจัดทำเอกสารที่จำเป็น สนับสนุนในการทดสอบระบบ
Developer
รับผิดชอบในการพัฒนา Business Object และส่งมอบกระบวนการอัตโนมัติ ที่เป็นไปตาม Best Practice เพื่อคุณภาพในการควมคุม และการขยายงาน
Technical Architect
ทำงานร่วมกับทีม RPA เพื่อ รับผิดชอบดูแล Environment เพื่อรองรับการทำงานของกระบวนการอัตโนมัติ และ กระบวนการอัจฉริยะ
Process Controller
จัดการวันทำงานรายวัน รวมเป็นด่านหน้าในการถึงตรวจสอบข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นใน Production Environment
3 ระดับของระบบอัตโนมัติ
Basic Automation
Digital Worker ทำงานกับกระบวนการที่ถูกวางขั้นตอนไว้อย่างครบถ้วน ไม่มีการตัดสินใจแบบ Logic-Based อย่างไรก็ตามยังคงเพิ่มทั้งด้าน Efficiency และ Productivity ซึ่งเหมาะสมสำหรับการเริ่มต้น สร้างความสำเร็จขั้นต้นที่สามารถรับรู้ Return of Investment ได้อย่างรวดเร็ว
AI-Enable Automation
Digital Worker ทำงานกับกระบวนการที่ถูกวางขั้นตอนไว้อย่างครบถ้วน ไม่มีการตัดสินใจแบบ Logic-Based อย่างไรก็ตามยังคงเพิ่มทั้งด้าน Efficiency และ Productivity ซึ่งเหมาะสมสำหรับการเริ่มต้น สร้างความสำเร็จขั้นต้นที่สามารถรับรู้ Return of Investment ได้อย่างรวดเร็ว
Intelligent Automation
การทำงานรวมกันระหว่าง Digital Worker และเทคโนโลยี Artificial Intelligence(AI) และ Machine Learning (ML) เพื่อเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจแบบ Logic-Based ตัวอย่างเช่น การประมวลผลข้อมูลให้กับพนักงาน Call Center เพื่อจัดเตรียมข้อมูลให้กับพนักงานทาง Email
เมื่อองค์กรมีพื้นฐานการใช้งานกระบวนการอัตโนมัติเบื่องต้น และพื้นฐานการในใช้งาน RPA ร่วมกับเทคโนโลยี AI แล้ว ในขั้นที่สองนี้ จากความสามารถที่เพิ่มขึ้นของ Digital Worker องค์กรสามารถให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพของกระบวนการ ความรวดเร็วและแม่นยำในการทำงาน ความถึงการลดความเสี่ยงในการควบคุมดูแล
INTELLIGENT AUTOMATION
เพื่อองค์กรในอนาคต
ความสามารถของ Digital Worker สามารถส่งมอบอนาคตให้กับองค์กรยุคใหม่ Intelligent Automation สามารถช่วยให้เป้าหมายขององค์กรสำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้น
- ทำงานรวดเร็วและแม่นยำ
- เพิ่มมาตรฐานให้กับกระบวนการ
- ลดเวลาการทำงาน และ เพิ่มความพึงพอใจ
- ปรับแต่งภาระงานและกระบวนการทำให้งานเหมาะกับมนุษย์มากขึ้น
- ส่งเสริมกรทำงานร่วมกันระหว่าง IT และ Business
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม
- เพิ่มความรวดเร็วให้กับการตอบสนองในด้านต่างๆ
Discover the Art of Possible
RPA สามารถนำมาใช้เพื่อทำให้ธุรกิจเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและลดความผิดพลาดของงานเอกสาร รวมไปถึงการที่ให้มนุษย์ได้ทำงานที่ต้องตัดสินใจมากขึ้น มาดูความเป็นไปได้ในการนำ RPA มาใช้ส่วนต่างๆ ของธุรกิจ