สำหรับทำงานในปัจจุบันกำลังจะเปลี่ยนไป เนื่องจากโลกเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ บริษัทหลายแห่งได้เริ่มพัฒนาไปสู่การทำงานแบบ Hybrid Workforce โดยงานกว่า 20% นั้นถูกปรับให้จัดทำโดย Digital Workforce ปัจจุบันในองค์กรต่างๆ มีทั้งองค์กรที่มีการใช้งาน Automation Process แบบบูรณาการ และองค์กรที่มีการใช้งานแบบเฉพาะแผนก
ทำความรู้จัก Hybrid Workforce คืออะไร
วันนี้ ZyGen จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับ Hybrid Workforce ในความคิดของหลายคนนึกถึงการทำงานแบบผสมผสาน ระหว่างการทำงานที่บ้านกับการทำงานที่ออฟฟิศ หรือการมีการจ้างงานแบบผสมทั้งพนักงานประจำ พนักงานแบบสัญญาจ้าง หรือ พนักงานจากการจ้างงานบุคคลภายนอก (Outsourcing) แต่ในบริบทนี้ Hybrid Workforce จะหมายถึง การทำงานร่วมกันระหว่าง คน ระบบ และ Digital Worker ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันอย่างลงตัว และมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับธุรกิจองค์กร
โดยแนวคิดนี้จะช่วยให้ทรัพยากรมนุษย์ขององค์กรสามารถโฟกัสกับสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีที่สุด เช่น การใช้ความคิดสร้างสรรค์ การใช้ความคิดริเริ่มใหม่ๆ โดยปล่อยงานที่มีขั้นตอนซ้ำๆ ให้กับ Digital Worker เป็นคนจัดการเป็นหลัก ทำให้มีส่วนช่วยให้องค์กรสามารถดูแลลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น พนักงานได้ทำงานที่ใช้ทักษะอย่างเต็มประสิทธิภาพซึ่งช่วยส่งผลให้องค์กรบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างดีเยี่ยม
ทำไม Hybrid Workforce ถึงสำคัญกับการทำงานในอนาคตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
หลายคนอาจกลัวว่า หุ่นยนต์จะเข้ามาทดแทนพวกเขาและจะทำให้พวกเขาตกงานในที่สุด จากงานวิจัย Knowledge at Wharton วารสารทางธุรกิจจาก Wharton School of The University of Pennsylvania ได้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับการทดแทนงานของมนุษย์จากการใช้ Intelligent Automation กลับพบกับผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม โดยมีใจความสรุปจากงานวิจัยดังนี้
“ถึงแม้ว่าจะยังมีการปรับลดของจำนวนพนักงานหลังจากที่องค์กรได้เริ่มใช้งาน Digital Worker อยู่บ้าง แต่ข้อมูลก็ยังแสดงอีกว่าโดยภาพรวมแล้ว การใช้งาน RPA ที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้การจ้างงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากส่งผลให้องค์กรนั้นมีความ Productive มากยิ่งขึ้น จึงมีความต้องการในการเพิ่มกำลังคนเพื่อตอบสนองอุปสงค์ในการผลิต”
“ส่วนตัวเลขการจ้างงานที่ลดลงนั้นมาจากองค์กรที่เลือกไม่ใช้งานระบบ RPA”
“องค์กรเหล่านี้มีความ Productive น้อยกว่า เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ตอบรับการใช้งานระบบ RPA แล้ว พวกเขายังสูญเสียความได้เปรียบทางการแข่งขัน และสุดท้าย ก็ต้องลดจำนวนพักงานลง”
ฝ่าย HR ต้องมีแนวคิดอย่างไร ในการเปลี่ยนแปลงสู่ Hybrid Workforce ในครั้งนี้
ในขณะฝั่ง Business และ ทีม Automation นั้นทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนากระบวนการอัตโนมัติ เพิ่มความพึงพอใจของทั้งลูกค้าและพนักงานด้วยการทำงานร่วมกับ Digital Worker ฝ่าย HR นั้นก็ต้องวางแผนเกี่ยวกับอนาคตด้านบุคลากร เพื่อให้มีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
ในยุคนี้ มีงานในองค์กรกว่า 30% ที่สามารถทำได้โดย Digital Worker การวางแผนเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ภายในองค์กรนั้นจะแตกต่างกับในปัจจุบัน ถึงเวลาแล้วที่ HR และ Business ต้องร่วมกันวางแผนเกี่ยวในเรื่องของคุณสมบัติของบุคลากรที่เหมาะกับการจ้างงานในปัจจุบัน รวมถึงการ Reskill พนักงานที่มีอยู่ ซึ่งองค์กรที่มีวิสัยทัศน์หลายองค์กรกำลังวางแผนในเรื่องนี้เช่นกัน โดยองค์กรต่างๆ กำลังวิเคราะห์เกี่ยวกับตำแหน่งที่จะได้รับผลกระทบจากการนำระบบ Automation เข้ามาใช้ รวมไปถึง ความสามารถที่ต้องมีเพิ่มเติมในตำแหน่วที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น หน้าที่รับผิดชอบบางอย่างของตำแหน่งผู้จัดการอาจจะได้รับผลกระทบ โดยที่งานของผู้จัดการส่วนหนึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูล และจัดทำรายงาน ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีสามารถเข้ามาช่วยให้การรวบรวมข้อมูล และจัดทำรายงานแบบอัตโนมัติ มีความรวดเร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์อีกด้วย สำหรับ Digital Worker เข้ามาช่วยงานในลักษณะที่เป็น Routine ทำให้พนักงานในตำแหน่งต่างๆ สามารถพัฒนาทักษะที่จำเป็นให้กับพนักงานมากขึ้น เช่น ทักษะในการสอนงาน หรือให้คำปรึกษาบุคคลากรในองค์กรเพื่อสร้างพลังในการทำงานและช่วยแชร์ความรู้ใหม่ๆ เป็นประโยชน์ต่อคนในองค์กรมากยิ่งขึ้น
หากคุณต้องการที่จะเป็นผู้นำในการก้าวเข้าสู่ยุคแห่ง Hybrid Workforce อย่าลืมให้ความสำคัญกับบุคลากรและอนาคตของพวกเขา
เรียบเรียงโดย ZyGen RPA Team
Process Discovery & Assessment เป็นตัวช่วยที่สำคัญให้องค์กรประหยัดเวลาที่สุด ได้ผลตอบแทนหรือประโยชน์ที่คุ้มค่าที่สุด ตลอดจนการจัดสรรทรัพยากรขององค์กรที่เหมาะสมที่สุด