ปัจจุบันการเติบโตของธุรกิจ eCommerce ในรูปแบบ B2C (Business-to-Customer) เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายบริษัทมีการขายสินค้าหรือบริการโดยตรงให้กับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และการจัดส่งสินค้าตรงถึงลูกค้า ซึ่งหนึ่งในกระบวนการสำคัญของการทำ eCommerce คือการจัดการข้อมูลลูกค้าที่ถูกต้อง และรวดเร็ว เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Customer Insight) ที่มีประโยชน์ต่อการปรับปรุงธุรกิจ
ในกระบวนการจัดส่งสินค้า โดยทั่วไปแล้วจะมีการสร้างเอกสาร Air Waybill (AWB) ซึ่งเป็นเอกสารที่ใช้ในการขนส่งสินค้าให้ถึงมือผู้รับ โดย AWB จะระบุข้อมูลที่สำคัญของลูกค้า เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ และรายละเอียดการส่งสินค้า ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นแหล่งข้อมูลที่มีค่ามากสำหรับการวิเคราะห์ แต่ข้อจำกัดคือ เมื่อข้อมูลที่อยู่ใน AWB ได้ดำเนินการสั่งพิมพ์ และแปะหน้าพัสดุเพื่อเตรียมการจัดส่งแล้ว จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้อีก นี่คือปัญหาสำคัญที่ทำให้ธุรกิจต้องพึ่งพาเทคโนโลยี Intelligent Document Processing (IDP) เพื่อเก็บ และประมวลผลข้อมูลจาก AWB ก่อนที่ข้อมูลจะสูญหายไป และไม่สามารถนำไปใช้งานต่อได้ในอนาคต
ความสำคัญของการเข้าถึงข้อมูลจาก Air Waybill
สำหรับธุรกิจ eCommerce การเก็บข้อมูลจาก AWB มีความสำคัญอย่างมาก เพราะข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่สามารถนำไปวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าได้ ซึ่งมีประโยชน์ในหลายด้าน เช่น
- การวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า (Customer Demand Analysis): ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้ามากขึ้น เช่น จำนวนครั้งที่ลูกค้าซื้อสินค้าซ้ำ ความถี่ในการสั่งซื้อ หรือสินค้าใดที่ลูกค้านิยม
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ (Customer Service Efficiency): ข้อมูลการจัดส่งจะช่วยให้ทีมบริการลูกค้าสามารถตอบคำถามหรือแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการจัดส่งได้อย่างรวดเร็ว
- การปรับปรุงกระบวนการส่งสินค้า (Delivery Optimization): ข้อมูลที่อยู่ และพฤติกรรมการสั่งซื้อสามารถนำไปใช้เพื่อปรับปรุงกระบวนการส่งสินค้าให้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การใช้ IDP เพื่อประมวลผลข้อมูลจาก Air Waybill
IDP สามารถช่วยในการประมวลผล และเก็บข้อมูลจาก AWB ได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนที่ข้อมูลจะสูญหายไปเมื่อ AWB ถูกใช้งานในกระบวนการขนส่ง
1. การแปลงเอกสารให้เป็นดิจิทัล (Digitization) ด้วย IDP
เมื่อมีการสร้าง AWB และพิมพ์ออกมาเพื่อแปะบนพัสดุ ซึ่งก่อนที่จะแปะเอกสารที่พิมพ์มานั้น ขั้นแรกจะต้องใช้เทคโนโลยี IDP เพื่อช่วยในการสแกนเอกสารเพื่อนำข้อมูลที่มีอยู่บนกระดาษหรือไฟล์ภาพเข้าสู่ระบบในรูปแบบดิจิทัล การแปลงเอกสารให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลนี้ทำให้ข้อมูลสามารถจัดเก็บ และค้นหาได้ง่าย และช่วยให้การประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
2. การดึงข้อมูลที่สำคัญ (Data Extraction)
ระบบ IDP จะทำหน้าที่ประมวลผล และดึงข้อมูลที่สำคัญ เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ รายละเอียดการจัดส่ง และข้อมูลการชำระเงินออกมาจากเอกสาร AWB ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลหลักที่ธุรกิจ eCommerce สามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์ และตอบโจทย์การบริการลูกค้าได้ทันที การสกัดข้อมูลที่แม่นยำและรวดเร็วนี้ จะช่วยลดข้อผิดพลาดในการคีย์ข้อมูล และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
3. การจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลในระบบ (Storage and Analysis)
หลังจากข้อมูลถูกดึงจาก AWB และแปลงให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลแล้ว ข้อมูลนี้สามารถจัดเก็บในฐานข้อมูลกลางเพื่อให้สามารถนำไปวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าได้ เช่น การวิเคราะห์การซื้อซ้ำ การจัดทำ Customer Segmentation การคาดการณ์ความต้องการในอนาคต ตลอดจนการทำแคมเปญการตลาดที่ตรงกับพฤติกรรมลูกค้า
ตัวอย่าง: การใช้ IDP กับธุรกิจ eCommerce แบบ B2C
ธุรกิจ eCommerce ของบริษัท ABC ที่ขายสินค้าโดยตรงให้กับลูกค้าผ่านเว็บไซต์ และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ต้องการเครื่องมือที่ช่วยในการดึงข้อมูลจากเอกสาร AWB ที่ถูกพิมพ์เพื่อแปะบนพัสดุแล้วนำส่งให้ลูกค้า เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้จะไม่สามารถเข้าถึงได้อีก การใช้ IDP จึงกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญ และมีบทบาทสำคัญในกระบวนการทำงาน ดังตัวอย่างด้านล่างนี้
1. การอ่านข้อมูลจาก AWB โดยใช้ IDP เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าในแบบเรียลไทม์
ก่อนที่ข้อมูลบน AWB จะถูกแปะไปที่พัสดุ และสูญหายไป บริษัทสามารถใช้ IDP ในการอ่าน และสกัดข้อมูลที่สำคัญทั้งหมดจากเอกสารได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ธุรกิจสามารถเก็บข้อมูลของลูกค้า เช่น ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ ได้ในทันที ซึ่งช่วยลดเวลาในการคีย์ข้อมูลเข้าสู่ระบบด้วยตนเอง และเพิ่มความแม่นยำ
2. การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า (Customer Insight Generation)
เมื่อข้อมูลถูกจัดเก็บในระบบเรียบร้อยแล้ว บริษัทสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าในเชิงลึกได้ เช่น ประเมินว่าสินค้าใดที่ลูกค้าแต่ละกลุ่มมักจะซื้อบ่อย หรือทำการวิเคราะห์ช่วงเวลาที่ลูกค้ามีแนวโน้มสั่งซื้อสูง การสร้าง Customer Insight แบบนี้ทำให้บริษัทสามารถวางกลยุทธ์การตลาด และส่งเสริมการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดีขึ้น
3. การปรับปรุง และพัฒนาบริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
ด้วยการเก็บข้อมูลจาก AWB ธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการปรับปรุงบริการที่ให้กับลูกค้าได้ เช่น การเตรียมความพร้อมในการติดตามคำสั่งซื้อ การตอบกลับลูกค้าเมื่อเกิดปัญหาการจัดส่ง การให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการจัดส่งที่แม่นยำ และทันท่วงที ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากขึ้น
ประโยชน์ที่ธุรกิจ eCommerce ได้รับจากการใช้ IDP ในการประมวลผลข้อมูล AWB
การใช้เทคโนโลยี IDP เพื่อประมวลผลข้อมูลจาก AWB ไม่เพียงแค่ช่วยในการเก็บข้อมูลที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ภายหลัง แต่ยังสร้างประโยชน์ที่สำคัญหลายด้าน ได้แก่
- ลดความซ้ำซ้อน และประหยัดทรัพยากร: ลดขั้นตอนในการกรอกข้อมูลซ้ำซ้อน และประหยัดเวลาในการป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบด้วยมือ
- เพิ่มความแม่นยำ: ลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะผิดพลาดจากการป้อนด้วยมือ ทำให้ข้อมูลมีความถูกต้อง และเชื่อถือได้
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน: การประมวลผลอัตโนมัติทำให้กระบวนการรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลทำได้เร็วขึ้น ช่วยให้ธุรกิจสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ส่งเสริมการวางแผนการตลาด: การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลที่เก็บมาจาก AWB ช่วยให้บริษัทวางแผนการตลาดที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุด
- สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า: ด้วยการจัดการข้อมูลที่รวดเร็ว และแม่นยำ ลูกค้าจะได้รับบริการที่ดีขึ้น ส่งผลให้เกิดประสบการณ์ที่ดีและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
การใช้ IDP กับธุรกิจ eCommerce ช่วยให้การจัดการข้อมูลจาก AWB เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และช่วยให้ธุรกิจสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ก่อนที่ข้อมูลจะสูญหายไปหลังจากการจัดส่ง ซึ่งการใช้ข้อมูลที่ได้จาก AWB ในการวิเคราะห์ Customer Insight ก็จะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงบริการ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงจุด ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสำเร็จในธุรกิจ eCommerce
หากคุณเป็นธุรกิจที่อยู่ใน eCommerce และต้องการเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขาย ปรึกษาเราเพิ่มเติมหรือติดต่อเพื่อรับชม Demo ฟรี
Author: Thanakhan P.