หากคุณคือคนที่รู้สึกว่าการทำงานปัจจุบันยังมีกับดักของงานที่มีหลายขั้นตอน หรืออาจเจอปัญหาข้อจำกัดด้านซอฟต์แวร์ที่กำลังใช้งานอยู่ ทำให้การทำงานยุ่งยากและซับซ้อน รวมไปถึงการที่มีข้อมูลกระจัดกระจายอยู่บนหลายๆ แอปพลิเคชันทำให้ยากต่อการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก หลายธุรกิจก็กำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ไม่ต่างจากคุณ
Microsoft ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีชื่อว่า Microsoft Power Apps เข้ามาช่วยธุรกิจของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งในฐานะของ Business User (ผู้ใช้งานทางธุรกิจ) อาจคาดไม่ถึงเลยว่า จะสามารถเรียนรู้การสร้างแอปพลิเคชันแบบกำหนดเองได้ด้วยตนเอง เพื่อยกระดับการทำงานและเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานให้กับองค์กร โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นนักเขียนโปรแกรม ด้วย Power Apps ที่เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักของ Microsoft Power Platform คุณจะสามารถสร้างแอปพลิเคชันสำหรับธุรกิจได้ในรูปแบบ Low-Code
นอกจากนนี้ Microsoft Power Apps ยังได้รับการยอมรับว่า เป็นผู้นำทางด้านแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันแบบ Low-Code ระดับองค์กร จาก Gartner ใน “2023 Gartner® Magic Quadrant™ for Enterprise Low-Code Application Platforms” อีกด้วย
ทำความรู้จัก Power Apps
สำหรับ Power Apps จะเปรียบเสมือนกล่องเครื่องมือที่เต็มไปด้วยส่วนประกอบที่ถูกสร้างไว้แล้ว และฟีเจอร์ต่างๆ ที่ผู้ใช้งานสามารถใช้วิธีลาก-วาง (drag-and-drop) ได้ทันที โดยส่วนประกอบต่างๆ เหล่านี้ ผู้ใช้สามารถนำมาดีไซน์แอปพลิเคชันที่เหมาะสมกับความต้องการได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ด้านการเขียนโค้ดอีกด้วย
Power Apps เชื่อมต่อกับข้อมูลได้จากหลากหลายแหล่งไม่ว่าจะเป็น SharePoint, Excel และ Dynamics 365 ซึ่งจะเห็นได้ว่าเราสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่เพื่อสร้างแอปพลิเคชันได้ทันที ทำงานในรูปแบบอัตโนมัติ เก็บข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูล ผ่านโปรแกรมการทำงานที่คุ้นเคยอย่าง Microsoft
ประโยชน์ของ Power Apps สำหรับผู้ใช้งานทางธุรกิจ
Power Apps สร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้งานทางธุรกิจได้หลากหลายด้าน ดังนี้
1. เพิ่มประสิทธิภาพ และ Productivity
ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน และปรับเปลี่ยนกระบวนการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะสามารถนำมาทำให้เป็นอัตโนมัติได้ เพื่อคืนเวลาที่มีค่าให้คุณได้นำไปใช้โฟกัสกับงานทางด้านกลยุทธ์ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น แอปพลิเคชันที่สามารถส่งและติดตามรายงานค่าใช้จ่ายได้แบบอัตโนมัติ หรือช่องทางการเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าที่ถูกลดความซับซ้อน ทำให้เข้าถึงข้อมูลสะดวกยิ่งขึ้น
2. เพิ่มความสามารถในการมองเห็นข้อมูลและข้อมูลเชิงลึก
Power Apps สามารถรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ไว้ในที่เดียว ซึ่งทำให้ความสามารถในการมองเห็นข้อมูลของคุณดียิ่งขึ้น นำไปสู่การเห็นเทรนด์ต่างๆ ทำให้เกิดการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และเพิ่มความเข้าใจด้านการดำเนินงานมากขึ้น
3. ผลักดันการสร้าง Citizen Developer
Power Apps ช่วยสร้าง Citizen Development ให้เกิดขึ้นในองค์กร หรือการพัฒนาทักษะให้พนักงานที่ไม่ใช่พนักงานไอทีสามารถสร้างแอปพลิเคชันเองได้ ผู้ใช้งานทางธุรกิจที่เจอปัญหาในการทำงาน สามารถสร้างและคิดค้นวิธีการแก้ปัญหาได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาแผนกไอทีเพียงอย่างเดียว ทำให้เพิ่มศักยภาพให้กับทีม รวมถึงส่งเสริมให้ผู้ที่ทำงานมีความรู้สึกเป็นเจ้าของงานมากยิ่งขึ้น
4. ประหยัดค่าใช้จ่าย
โดยปกติแล้ว การสร้างแอปพลิเคชันที่มีการ Customize มักจะใช้เวลานานและมีต้นทุนที่สูง แต่ Power Apps จะปลดล็อกความสามารถของผู้ใช้งานทางธุรกิจให้สามารถสร้างแอปพลิเคชันง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นการลดต้นทุนไปได้อย่างมาก
5. เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน
Power Apps เร่งความเร็วในการพัฒนาแอปพลิเคชัน เพราะผู้พัฒนาไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดที่ซับซ้อน ทำให้สามารถสร้างและใช้งานแอปได้อย่างรวดเร็ว เพื่อนำไปตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ตัวอย่างเคสการใช้งาน Power Apps
แอปพลิเคชันที่สร้างได้บน Power Apps มีมากมายและครอบคลุมหลากหลายแผนกในองค์กร ซึ่งตัวอย่างที่พบบ่อยๆ มีดังนี้
- แผนกการขาย: สร้างแอปเพื่อติดตามกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มที่จะกลายมาเป็นลูกค้า จัดการการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า และสร้างใบเสนอราคา
- แผนกการตลาด: สร้างแอปพลิเคชันเพื่อจัดเก็บรายชื่อลงทะเบียนของผู้เข้าร่วมอีเวนท์ แจกจ่ายแบบสำรวจ และติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญ
- แผนกปฏิบัติการ: พัฒนาแอปเพื่อบริหารคลังสินค้า สร้างลำดับการทำงาน หรือติดตามสินทรัพย์
- แผนกทรัพยากรบุคคล: ดีไซน์แอปสำหรับ Onboarding ของพนักงาน การส่งรีเควสสำหรับลางาน และบริหารจัดการกิจกรรมเทรนนิ่งต่างๆ
- แผนกการเงิน: สร้างแอปเพื่ออำนวยความสะดวกในการรายงานค่าใช้จ่าย บริหารจัดการงบประมาณ หรือติดตามใบแจ้งหนี้
เคล็ดลับเพื่อการใช้งาน Power Apps ให้ประสบความสำเร็จ
- เริ่มต้นด้วยจุดประสงค์ที่ชัดเจน ก่อนที่จะใช้งาน Power Apps คุณควรระบุปัญหาให้ชัดเจน ว่าอะไรคือสิ่งที่อยากให้แอปพลิเคชันเข้ามาช่วยแก้ไข และฟังก์ชันอะไรที่คิดว่าจำเป็น เพราะจุดประสงค์ที่ถูกคิดวิเคราะห์มาอย่างดี จะเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาแอปของคุณเป็นอย่างมาก
- คงความเรียบง่ายไว้ อย่าพยายามที่จะสร้างแอปพลิเคชันให้ครอบคลุมทุกส่วนของการทำงานในทันที ให้เริ่มจากพื้นฐานและแอปที่ต้องการจริงๆ ก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มฟีเจอร์เข้าไปจากฟีดแบ็คของผู้ใช้งาน และความต้องการที่เปลี่ยนไป
- รู้จักใช้เทมเพลตและตัวเชื่อมต่อต่างๆ ใช้ประโยชน์จากเทมเพลตและตัวเชื่อมต่อต่างๆ เพื่อประหยัดทั้งแรงและเวลาในการพัฒนาแอป โดย Power Apps สร้างตัวช่วยเหล่านี้ไว้มากมายใน Library อำนวยความสะดวกให้คุณเริ่มใช้งาน Power Apps ได้อย่างรวดเร็ว
ต้องการปรึกษาเกี่ยวกับ Power Apps หรือ Power Platform เพิ่มเติม ติดต่อ ZyGen เราพร้อมให้คำปรึกษาคุณฟรี คลิก
References:
What is Power Apps?
Magic Quadrant for Enterprise Low-Code Application Platforms