การรับมือกับวิกฤต The Great Resignation คนทำงานยอมลาออกถ้าต้องกลับเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศแบบเดิมๆ

ความท้าทายอย่างหนึ่งขององค์กรในยุคปัจจุบัน คือ การรับมือกับวิกฤต The Great Resignation (การลาออกครั้งยิ่งใหญ่ของพนักงาน) สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นจริงกับหลายๆ ที่ทั่วโลก โดยมีปัจจัยสำคัญหลัก คือ การแพร่ระบาดของโควิด – 19 หลายคนได้มีโอกาสใช้ชีวิตในรูปแบบที่พวกเขาต้องการควบคู่ไปกับการทำงาน ปัจจุบันองค์กรจะมีวิธีการในการรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างไรเพื่อให้ธุรกิจณวมไปถึงคนทำงานยังคงขับเคลื่อนไปด้วยกันได้อย่างมีความสุขและลงตัวที่สุด

มีผลสำรวจจากหลากลายองค์กร วันนี้ขอยกตัวอย่างบางองค์กร เช่น ผลการศึกษาจาก Harvard Business School ได้ทำการสำรวจกับพนักงาน 130 คนในช่วงปี 2020 นี้ และแบ่งคนเหล่านี้ออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ใช้เวลาทำงานในออฟฟิศน้อยกว่า 25%, กลุ่มที่ใช้เวลาทำงานในออฟฟิศมากกว่า 40% และกลุ่มที่อยู่ตรงกลางระหว่างสองกลุ่มแรก โดยจะใช้เวลาทำงานในออฟฟิศประมาณ 1-2 วันต่อสัปดาห์ซึ่งใช้ระยะเวลาการทดลองทั้งหมด 9 สัปดาห์ ค้นพบว่า กลุ่มสุดท้ายที่ใช้เวลาทำงานในออฟฟิศ 1-2 วันต่อสัปดาห์ สามารถผลิตงานได้มีประสิทธิภาพกว่ากลุ่มอื่นๆ อย่างน่าสนใจ

งานวิจัยจาก ADP Research Institute พบว่า การที่บริษัทยกเลิก Work From Home เป็นปัจจัยที่ทำให้พนักงานไม่อยากทำงานที่ออฟฟิศ และอาจจะลาออกได้ ADA Research Institute มีรายงาน People at Work 2022 : A Global Workforce จากผลสำรวจความคิดเห็นของพนักงาน ประมาณ 32,000 คนในอินเดีย เนเธอร์แลนด์ และมีอีกรวม 17 ประเทศ สำรวจเทรนด์ความเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานโลก การที่คนทำงานทั่วโลกกว่า 64% กล่าวว่าจะพิจารณาหางานใหม่หากบริษัทจะให้กลับไปทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลา กลุ่มอายุระหว่าง 18-24 ปี คนกลุ่มนี้ที่ไม่อยากกลับไปทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลามากที่สุด ถึง 71% พวกเขาระบุว่าจะพิจารณาหางานใหม่ที่มี WFH และกลุ่มอายุ 35 – 44 ปี และ 45 – 54 ปี จะทำงานแบบไฮบริด หรือ ออฟฟิศ อยู่ที่ 61% และ 56% ตามลำดับ พนักงานส่วนใหญ่ยินดีที่จะลดเงินเดือนเพื่อได้ทำงานแบบไฮบริด

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากผลการวิจัยจากหลากหลายองค์ดกรที่ได้ข้อสรุปไปในทิศทางเดียวกันว่า พนักงานที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศตลอด มีสมดุลในการทำงานและการใช้ชีวิตมากขึ้น ความเครียดลดลง สุขภาพกาย สุขภาพจิต รวมถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวก็ดีขึ้น ยิ่งสำหรับคนทำงานในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร ในประเทศไทยหลายคนที่ต้องเคยเหนื่อยล้ากับปัญหารถติด การใช้เวลาเดินทางที่มากเป็นพิเศษ หรือ แม้กระทั่งคนต่างจังหวัดที่จะได้กลับไปเยี่ยมครอบครัวเพียงแค่ช่วงไม่กี่ครั้งต่อปี สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของคนทำงานที่มีโอกาสจะลาออก หรือ เลือกทำงานกับบริษัทที่มีความยืดหยุ่นสูงกว่า

ปัจจุบันมีเทคโนโลยี เครื่องมือหลายอย่างที่ถูกพัฒนาและออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น อย่างเช่น การมีพื้นที่ออฟฟิศเสมือนจริง (Virtual Workplace) , การประชุมออนไลน์ (Meeting Online), การจัดกิจกรรมภายในบริษัทแบบออนไลน์, Team Building แบบออนไลน์, สัมภาษณงาน หรือจัดงาน Open House บนออฟฟิศของบริษัทแบบ Metaverse หรือ แม้กระทั้งการจัดงานสัมนาผ่าน Metaverse สิ่งเหล่านี้ช่วยให้คนทำงานสามารถทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) หรือทำงานจากที่ไหนก็ได้ (Work From Anywhere) ได้สะดวกขึ้น พนักงานยังคงเชื่อมต่อทั้งงาน และความสัมพันธ์ได้อย่างดี หลายๆกิจกรรมรูปแบบใหม่ๆเกิดขึ้นบนโลกเสมือนผสมผสานกับโลกความเป็นจริง (Merge Reality) แบบที่โลก Physical World ไม่เคยเกิดขึ้น

บริษัท ZyGen เราเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนโยบาย Work From Anywhere แบบ 100% แต่ก็ยังคงมีพื้นที่ ออฟฟิศจริงสำหรับพนักงานที่ต้องการเข้ามาใช้พื้นที่หรือ Facilities ของออฟฟิศ พนักงานของเราอยู่หลากหลายภูมิภาคในประเทศไทย ทุกคนยังสามารถคุยงาน ประชุม อัพเดต หรือสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้ ไม่เพียงแค่เครื่องมือที่ช่วยในการติดต่ออย่างเช่น Microsoft Team, Zoom, Google Meet แต่เรายังมีพื้นที่ออฟฟิศบน Metaverse ให้พนักงานสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเราให้ความสำคัญของการเชื่อมต่อกันและกัน ที่ไม่ใช่แค่การทำงานที่เจอกันแค่ในที่ประชุม ZyGen เราใช้เครื่องมือหลากหลายเข้ามาช่วยเหลือพนักงานในการทำงาน เช่น Microsoft Power Apps , Gamification, Software Robot หรือ Robotic Process Automation (RPA) มา Integrate กับ แพลตฟอร์มอย่าง Gather.Town และ Spotvirtual เพื่อเข้ามาช่วยเปลี่ยนโลกของการทำงานให้ Smart ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Decision Making) และมีความเป็น Digital Office มากยิ่งขึ้น

การใช้งาน Metaverse หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Merge Reality ไม่ได้ถูกใช้เพียงแค่สำหรับการทำงานเท่านั้น ยังสามารถประยุกต์ใช้ในด้านอื่นๆ เช่น การศึกษา, ห้องเรียนออนไลน์บนโลกเสมือน Metaverse, งาน Job Fair, กิจกรรมภายในบริษัท หรือแม้กระทั่งพื้นที่ Service ลูกค้าผ่าน Metaverse เมื่อโลกเปลี่ยน พฤติกรรมผู้คนเปลี่ยน คนทำงานทุก Generation ที่มีความหลากหลายแตกต่างกันพยายามปรับตัวเพื่อให้การทำงานสอดคล้องกัน ดังนั้น ปัญหา The Great Resignation จะลดลงไปถ้าบริษัทและพนักงานมีความยืดหยุ่นและเชื่อมต่อกันได้ไม่ว่าจะทำงานอยู่ที่ไหนก็ตาม

หากสนใจหรือต้องการเยี่ยมชมตัวอย่างการใช้งานสามารถติดต่อเราได้ที่ Email : [email protected]

ขอบคุณแหล่งที่มา
bloomberg.com

แชร์ :
Scroll to Top